botox หิ้ว botox ปลอม อันตรายยังไง ?
“โบท็อกซ์” จัดอยู่ในหมวดผลิตภัณฑ์ความสวยความงามถึงแม้จะได้รับการรับรองมาจากต่างประเทศแล้ว แต่การที่จะนำเข้ามาขายในไทยก็ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานของไทยด้วย
ด้วยความที่โบท็อกซ์ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมโดยส่วนใหญ่จะเป็นยี่ห้อของต่างประเทศทำให้มีราคาสูง จึงทำให้มีคนหัวใสทำโบท็อกซ์ปลอมหรือไม่ก็หิ้วของที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาขาย ฉะนั้นก่อนจะฉีดต้องระวังให้ดี!!!
โบท๊อกซ์ที่ผ่าน อย. ไทย มีกี่ยี่ห้ออะไรบ้าง
1. Botox Allergan (โบท็อกอเมริกา) เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด จุดเด่นของยี่ห้อคือนี้ฉีดแล้วตึงมากที่สุดให้ผลที่แม่นยำ ฉีดแล้วไม่กระจายตัวเป็นวงกว้าง ฉีดจุดไหนแก้ไปปัญหาผิวหน้าตรงจุดนั้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น แต่ในราคาค่อนข้างที่จะสูงกว่า
2. Neuronox (โบท็อกเกาหลี) เป็นอีกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมพอกันกับโบท็อกสัญชาติอเมริกา ให้ผลได้นาน ประมาณ 4-6 เดือน แต่ข้อดีคือราคาถูกกว่า
3. Botulax (โบท็อกเกาหลี) เป็นโบท็อกซ์ที่เหมาะสำหรับวัยรุ่น สำหรับใครที่ไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยมากนัก แต่อยากเน้นโบท๊อกที่ช่วยเพิ่มความสดใสอ่อนวัย
4. Dysport (โบท็อกอังกฤษ) โบท็อกซ์ยี่ห้อนี้จะกระจายดัวได้ดีและออกฤทธิ์ได้ดีกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เหมาะกับการฉีดที่ต้นแขน ต้นขา น่อง เป็นต้น แต่ถ้าหากอยากใช้กับใบหน้าก็ได้เช่นกันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้โบท็อกซ์กระจายตัวเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยในวงกว้าง เช่นทั่วทั้งหน้าผาก
5. Xeomin (โบท็อกเยอรมัน) จุดเด่นของโบท็อกซ์ของเยอรมันคือให้ความรู้สึกเบาสบายไม่หนักหน้า ฉะนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยเล็กน้อย ริ้วรอยตื้น ผู้ที่เพิ่งเริ่มมีริ้วรอย และโบท๊อกซ์ยี่ห้อนี้ยังได้รับการวิจัยว่าเหมาะสำหรับเคสที่ดื้อยาด้วย
6. Nabota (โบท็อกเกาหลี) สำหรับใครที่ต้องการงานเร่ง งานด่วน ต้องฉีดโบท็อกซ์ Nabota สัญชาติเกาหลี เพราะฉีดแล้วให้ผลในทันที แต่ข้อเสียคือระยะเวลาอยู่ได้สั้นลงกว่ายี่ห้ออื่นเล็กน้อย
7. Hugel Toxin (โบท๊อกซ์เกาหลี) ช่วยให้ใบหน้าสวยโดดเด้ง นอกจากจะช่วยลดเลือนริ้วรอยแล้ว ยังช่วยทำให้ใบหน้ามีน้ำมีนวลขึ้นด้วย
#วิธีการเลือกโบท๊อกซ์ที่ปลอดภัย
ก่อนที่จะฉีดโบท๊อกซ์ยี่ห้อใดก็ตาม นอกจากจะเลือกสถาบันหรือแพทย์ผู้ฉีดให้แล้วยังไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือต้องเป็นโบท็อกซ์แท้เท่านั้นซึ่งมีวิธีดูคือ
1. เลือกโบท็อกซ์ยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งตามตัวอย่างที่กล่าวมานี้ถือว่าปลอดภัย
2. โบท็อกซ์ต้องไม่ผ่านการเปิดมาก่อน ก่อนฉีดควรขอให้แพทย์เปิดให้ดูต่อหน้า
3. ต้องมีเอกสารกำกับภาษาไทย ตรวจเช็คแลข อ.ย. และเอกสารกำกับไทย
4. ตรวจเช็คเลข lot ที่ขวดกับที่กล่องต้องตรงกัน
5. บางยี่ห้อที่ขวดโบท็อกซ์จะมีตัวหนังสือสีรุ้ง หรือที่เรียกว่าโฮโลแกรม
6. น้ำยาใส ขวดไม่บุบเบี้ยว ไม่ขึ้นสนิม
#รู้หรือไม่อันตรายจากการใช้โบท๊อกซ์ปลอม หรือโบท๊อกซ์หิ้วนั้นน่ากลัวแค่ไหน ?
ด้วยคุณภาพที่ไม้ได้มาตรฐาน จึงทำให้โบท็อกเหล่านี้เกิดผลข้างเคียงได้มากมายกว่าที่เราจะจินตนาการได้ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของกรณีที่เกิดขึ้นจริงจากการใช้โบท็อกซ์ปลอม
• โบท็อกซ์ไม่ละลาย หน้าปูดโปน หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว เป็นความผิดปกติอย่างแรกที่สังเกตได้ แต่สิ่งที่อันตรายกว่านั้นคืออาจแก้ไขไม่ได้เลยตลอดชีวิต อาจมีผลต่อการกลืนการเคี้ยวอาหารลำบาก หรือส่งผลเสียต่อดวงตาและการมองเห็น
• การกระจายตัวของโบท็อกปลอมจะควบคุมได้ไม่ดี บางครั้งจะกระจายตัวกว้างไปทำให้อันตรายต่อกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่สำคัญ อย่างเช่นดวงตา
• เสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะสารปนเปื้อนซึ่งเกิดจากการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
• ทำให้ผิวหนังภายในเกิดพังผืด ทำให้ใบหน้าดูเป็นไตแข็งๆ และทำให้การฉีดครั้งต่อไปยากขึ้น
• ทำให้ดื้อยาได้ง่ายขึ้น และเช่นกันคือการฉีดครั้งต่อไปจะยากขึ้น เห็นผลไม่ชัดเจน
• ผลเสียที่รุนแรกมากที่สุดคือเสียชีวิต เพราะสารปนเปื้อนที่มีอยู่ในโบท็อกซ์ บวกกับการฉีดในปริมาณมากเกินไปทำให้เกิดทำลายกล้ามเนื้อ แพ้ยาอย่างรุนแรง ไปจนถึงโบท็อกซ์กระจายทั่วร่างกาย
สอบถามรายละเอียดโเพิ่มเติมที่พี่อุ๋ย
โทร 0866861768
ไลน์ auizaa2499
Line: @auizaa2499 (มี@นำหน้าค่ะ)
📲หรือลิ้ง http://line.me/ti/p/%40auizaa2499